จากงาน WWDC 2013 ที่ผ่านมาของ Apple ที่หลักๆ แล้วเป็นงานเปิดตัวระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่สำหรับอุปกรณ์พกพาอย่าง iOS 7 และระบบปฏิบัติการรุ่นล่า OS X 10.9 Mavericks ที่ใช้บนผลิตภัณฑ์ Mac แล้ว ก็ยังมีในส่วนของการอัพเดทเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาสุดบาง MacBook Air อีกด้วย (หรือเรียกง่ายๆ ว่า MacBook Air Mid 2013) โดยเป็นการเปลี่ยนแปลงในส่วนของสเปกเป็นหลัก ซึ่งได้มีการอัพเดทมาใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 4 หรืออีกชื่อคือ Intel Haswell ที่มาพร้อมกับพลังในการประมวลผลที่มากกว่าเดิม ที่สำคัญคือกราฟิกภายในออนบอร์ดอย่าง Intel HD 5000 ที่ทรงประสิทธิภาพกว่ารุ่นเดิมหลายเท่าตัว เรียกได้ว่าทำให้ MacBook Air รุ่นใหม่นี้ น่าใช้กว่าเดิมขึ้นอีกเยอะ สำหรับหลายๆ คนที่นำไปทำงานกราฟิกหรือเล่นเกม 3 มิติ
![](http://specphone.com/web/wp-content/uploads/2013/06/Screen-Shot-2556-06-11-at-4.29.38-AM.png)
และด้วยการมาของชิปประมวลผล Intel Core i Gen 4 ที่เป็นรุ่นประหยัดพลังงานพิเศษ ยังทำให้ระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ใน MacBook Air ยาวนานขึ้น เป็น 9 ชั่วโมงสำหรับ MacBook Air 11″ และ MacBook Air 13″ จะยาวนานถึง 12 ชั่วโมงด้วยกัน ซึ่งถือได้ว่าระยะเวลาที่เราสามารถใช้งานได้ทั้งวันจริงๆ โดยไม่ต้องพกอแดปเตอร์ออกจากบ้านเลย อีกทั้งทาง Apple ยังบอกว่า MacBook Air รุ่นใหม่นั้น สามารถเปิดชมวีดีโอได้ยาวนานถึง 10 ชั่วโมงทีเดียว นับได้ว่าเป็นอะไรที่น่าประทับใจจริงๆ โดยส่วนนึงก็ต้องยอมรับว่าเป็นผลมาจาก OS X 10.9 Mavericks รุ่นล่าสุด ที่มีการจัดการพลังงานที่ดีขึ้นอีกด้วย
![](http://specphone.com/web/wp-content/uploads/2013/06/Screen-Shot-2556-06-11-at-4.27.25-AM.png)
รวมไปถึง MacBook Air รุ่นใหม่นั้น (MacBook Air Mid 2013) ยังรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11ac เพื่อการใช้งานที่เร็วและไกลขึ้น พร้อมติดตั้งไมค์แบบ Dual อย่างที่ก่อนหน้ามีใน MacBook Pro Retina อีกด้วย แน่นอนว่าเพื่อรองรับการสนทนาที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม และ Flash Storage ที่ประสิทธิภาพเร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 45% ทีเดียว
ในส่วนอื่นๆ นอกเหนือนี้ทั้ง MacBook Air 11″ และ MacBook Air 13″ ยังมีความคงเดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีไซน์ น้ำหนัก ความบาง พอร์ตการเชื่อมต่อ แต่เดี๋ยวก่อนยังมีสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงแล้วมีความน่าสนใจมากๆ ก็คือ ราคาได้มีการปรับให้ถูกลง ส่งผลให้มีความน่าซื้อจับจองเป็นเจ้าของกว่าเดิมเสียอีก โดยชมได้ดังต่อไปนี้
Air 11″ Core i5/HD5000/Ram 4GB/SSD 128GB ราคา 31,900 บาท (รุ่นเดิม 31,900)
- เป็น MacBook Air รุ่นเล็กสุด ที่มาพร้อมกับราคาเท่าเดิม แต่ได้มีการเพิ่มในส่วนของ SSD มาให้จากรุ่นก่อนหน้า 64GB เป็น 128GB แทน ซึ่งจัดได้ว่ามีความน่าสนใจพอสมควร
Air 11″ Core i5/HD5000/Ram 4GB/SSD 256GB ราคา 37,900 บาท (รุ่นเดิม 34,900)
- เป็น MacBook Air รุ่นเล็กที่ในส่วนของสเปกต่างๆ เหมือนกันหมดยกเว้นแต่ SSD ที่มีความจุมากกว่า 1 เท่า แม้ราคาจะสูงกว่ารุ่นเดิม แต่ก็มาพร้อม SSD ความจุ 256GB ทีเดียว
Air 13″ Core i5/HD5000/Ram 4GB/SSD 128GB ราคา 34,900 บาท (รุ่นเดิม 37,900)
- ถือได้ว่าเป็น MacBook Air ที่น่าเล่นที่สุด เพราะจากขนาดหน้าจอที่ใหญ่ ในราคาที่ไม่แพงด้วยสเปกคุ้มค่า ที่ในตอนนี้ยังลดราคาจากรุ่นเดิมมา 3,000 บาท ยิ่งทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีเข้าไปอีก
Air 13″ Core i5/HD5000/Ram 4GB/SSD 256GB ราคา 41,900 บาท (รุ่นเดิม 44,900)
- สำหรับตัวบนสุดเหมาะมากๆ กับคนที่ต้องการหน้าจอ 13″ และความจุงสูงสุด (กรณีไม่ได้สั่งพิเศษ) โดยในส่วนของราคาได้มีการปรับลงมา 3,000 บาทด้วยกัน
อย่างไรก็ตามถือได้ว่าเพดานราคาของ MacBook Air (MacBook Air Mid 2013) ได้มีการปรับลงมาตามต้นทุนเทคโนโลยีที่ถูกลง ส่งผลให้คนที่มีความสนใจในโน้ตบุ๊กที่บางและเบาอารมณ์แบบ Ultrabook มีความเป็นไปได้ที่จะนำ MacBook Air รุ่นใหม่นี้มาเป็นตัวเลือกอย่างแน่นอน ที่ถึงแม้หน้าจอจะไม่สามารถทัชสกรีนได้ แต่ในกรณีใช้งานบนระบบปฏิบัติการ OS X ก็สามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบไม่น้อยหน้าเครื่องโน้ตบุ๊กรุ่นอื่นๆ ทีเดียว
เอาเป็นว่าสำหรับคนที่ใจก็สามารถสั่งซื้อ MacBook Air รุ่นใหม่นี้ (MacBook Air Mid 2013) ขอแนะนำให้เพิ่มแรมเป็น 8GB ก็จะดีมากๆ เพื่อรองรับการใช้งานสำหรับการเปิดหลายโปรแกรม หรือถ้าจะเน้นทำงานหนักก็อัพเกรดเป็นตัวชิปประมวลผล Core i7 ดูได้เลย ราคาก็เพิ่มขึ้นมาตามภาพประกอบด้านล่าง ที่โดยส่วนตัวก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์รับได้ ไม่แพงจนเกินไปนัก
![](http://specphone.com/web/wp-content/uploads/2013/06/Screen-Shot-2556-06-11-at-4.17.24-AM-1024x440.png)
ปิดท้ายกันสำหรับ MacBook Air รุ่นใหม่ (MacBook Air Mid 2013) แม้ว่าในเรื่องของการดีไซน์ออกแบบยังคงเดิม ซึ่งก็เป็นปกติของ Apple อยู่แล้วที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์บ่อยๆ แต่จะเป็นการเพิ่มฟีเจอร์หรือประสิทธิภาพการทำงานเข้าไปแทน รวมไปถึงหน้าจอ Retina Display จะยังไม่มาในรุ่นนี้ แต่ก็เชื่อได้ว่าในอนาคต Apple ต้องเพิ่มความละเอียดหน้าจอลงไปใน MacBook Air รุ่นต่อๆ ไปอย่างแน่นอนครับ โดยรวมก็ถือว่าปรับสเปกขึ้นลดราคาลง ทำให้หลายๆ คนตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ว่าแล้วก็ซื้อผ่านทาง Apple Store Online กันได้เลย (รอการส่ง 7-10 วัน) ส่วนเครื่องหน้าร้านตาม iStuidio คาดว่าน่าจะทยอยมีมา ในส่วนของทีมงานก็อยากจะจัดรีวิว MacBook Air รุ่นใหม่ (MacBook Air Mid 2013) ยังไงคงต้องดูหลายๆ อย่างก่อนนะครับ
0 comments:
Post a Comment